Monday, January 4, 2010

ตลท.รีดค่าฟีขันบันได กองทุนอสังหาฯ-ETF มีผล 1 ม.ค.นี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2552

ตลาดหลักทรัพย์ฯ แก้เกณฑ์คิดค่าธรรมเนียม ซื้อขาย

หน่วยลงทุน “อีทีเอฟ- พร๊อพเพอร์ตี้ฟันด์”เป็นอัตราเดียว

กับค่าคอมมิชชั่นขั้นบันไดหุ้น จากเดิมที่คิด 0.10%

พร้อมยกเลิกหลักเกณฑ์ ทำสัญญา การเป็นนายหน้า

ซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนในลักษณะคู่ค้า

(Exclusive Partner) มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.นี้


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้มี

การส่งหนังสือเวียนแก่กรรมการบริษัทหลักทรัพย์

สมาชิกและบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่สมาชิกทุกบริษัท

เรื่อง การแก้ไขข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับ

การคิดค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์

โดยคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ โดยความเห็นชอบ

ของคณะกรรมการก.ล.ต.เห็นควรแก้ไขข้อกำหนด

ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในส่วนที่เกี่ยว กับการเรียก

ค่าธรรมเนียม ในการเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนซื้อ

หรือขายหลักทรัพย์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่

1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป


ทั้งนี้การคิดอัตราการเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์

(คอมมิชชั่น) แบบขั้นบันได คือ

1.มูลค่าการซื้อขายต่อวันไม่เกิน 5 ล้านบาท

คิดค่าคอมมิชชั่น ไม่น้อยกว่า 0.25%แต่ไม่เกิน 1%

2.มูลค่าการซื้อขายหลักทรัยพ์ต่อวันเกิน5 ล้านบาท

แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อวัน คิดค่าคอมมิชชั่นไม่น้อยกว่า

0.22%แต่ไม่เกิน1%

3.มูลค่าการซื้อขายต่อวันเกิน10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน20 ล้านบาท

คิดค่าคอมมิชชั่นไม่น้อยกว่า 0.18%

และ 4.มูลค่าการซื้อขายที่เกิน 20 ล้านบาท สามารถ

ต่อรองกันได้ แต่ไม่เกิน 1%


ส่วนการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต แบ่งเป็น

หากซื้อขายผ่านบัญชีแคชบาลานซ์ และบัญชีเครดิตบาลานซ์

มูลค่าการซื้อขายต่อวันไม่เกิน 5 ล้านบาท คิดค่าคอมมิชชั่น

ไม่น้อยกว่า 0.15 % แต่ไม่เกิน 1%

2.มูลค่าการซื้อขายหลักทรัยพ์ต่อวันเกิน5 ล้านบาท แต่ไม่เกิน

10 ล้านบาทต่อวัน คิดค่าคอมมิชชั่นไม่น้อยกว่า 0.13%แต่ไม่เกิน1%

3.มูลค่าการซื้อขายต่อวันเกิน10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน20 ล้านบาท

คิดค่าคอมมิชชั่นไม่น้อยกว่า 0.1%

และ 4.มูลค่าการซื้อขายที่เกิน 20 ล้านบาท สามารถ

ต่อรองกันได้ แต่ไม่เกิน 1%


สำหรับหากซื้อบัญชีอื่นคิดค่ามิชชั่น คือ

1.มูลค่าการซื้อขายต่อวันไม่เกิน 5 ล้านบาท

คิดค่าคอมมิชชั่น ไม่น้อยกว่า 0.20%แต่ไม่เกิน 1%

2.มูลค่าการซื้อขายหลักทรัยพ์ต่อวันเกิน5 ล้านบาท

แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อวัน คิดค่าคอมมิชชั่น

ไม่น้อยกว่า 0.18%แต่ไม่เกิน1%

3.มูลค่าการซื้อขายต่อวันเกิน10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน

20 ล้านบาท คิดค่าคอมมิชชั่นไม่น้อยกว่า 0.15%

และ 4.มูลค่าการซื้อขายที่เกิน 20 ล้านบาท สามารถ

ต่อรองกันได้ แต่ไม่เกิน 1%


นอกจากนี้ปรับอัตราค่าเนียม การซื้อขายหน่วยลงทุน

เช่น กองทุนรวมอีทีเอฟ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ จาก

0.10% เป็นลักษณะขั้นบันไดเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น

ยกเว้นหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพื่อลงทุนในตราสารหนี้

ให้เรียกเก็บตามอัตราที่ได้ทำข้อตกลงอัตราค่าธรรมเนียม

กับลูกค้าตามหลักเกณฑ์เดิม ส่วนกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ลงทุนสถาบัน

ให้คิดค่าคอมมิชชั่นในอัตราที่ตกลงกันกับลูกค้าแต่ไม่เกิน1%

พร้อมทั้งยกเลิกหลักเกณฑ์ทำสัญญาการเป็นนายหน้า

ซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนในลักษณะคู่ค้า (Exclusive Partner)


อย่างไรก็ตามการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการแก้ไขประกาศดังกล่าว

โดยที่ตลาดหลักทรัพย์ เห็นว่าเพื่อให้การเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น

ในการเป็นนายหน้า หรือตัวแทนในการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน

เป็นไปโดยเรียบร้อย และบริษัทสมาชิก สามารถเสริมสร้าง

ความเข้มแข็ง ในการประกอบธุรกิจ การให้บริการด้านหลักทรัพย์

ให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้บริษัทสมาชิกได้แสดงถึงความมุ่งมั่น

ที่จะเน้นคุณภาพ การให้บริการแก่ลูกค้า รวมทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพ

ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน (มาร์เกตติ้ง)และเสริมสร้างความสัมพันธ์

ระยะยาวระหว่างบริษัทสมาชิก ลูกค้า และมาร์เกตติ้ง ซึ่งจะเป็น

ประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ โดยรวม และรองรับ

การปรับตัวของบริษัทสมาชิกอันจะนำไปสู่การแข่งขันอย่างเสรี

No comments:

Post a Comment

Custom Search

Followers